วัสดุในการผลิตกระเป๋าชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแฟชั่น กระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าถือ
กระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าอินเทรนด์ต่างๆ มีอยู่หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นผ้า หนังสัตว์
หนังเทียมประเภทต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเครื่องหนังก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราพบเห็นหรือเป็นส่วนประกอบอยู่ใน
อุปกรณ์แถบทุกชนิด ไม่ใช่แค่กระเป๋าแฟชั่นที่เป็นเครื่องประดับสำคัญของผู้หญิงเท่านั้น หนังซึ่งเป็น
วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องหนังมีอยู่หลายประเภทและหลายคุณภาพ เราอาจจะไม่รู้ว่าใน
เครื่องหนังนั้น ๆ มิใช่มีเพียงหนังแท้ที่ได้มาจากหนังสัตว์ แต่ยังมีหนังที่ผลิตจากพลาสติกซึ่งมีลวดลาย
ของหนังแท้เข้ามาทดแทนมากมาย ซึ่งหนังเทียมPUก็เป็นหนังเทียมชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการใช้
ผลิตกระเป๋าหนังแฟชั่นในปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับหนังเทียมPU กันดีกว่า.....
หนังเทียม PU แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือกระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าอินเทรนด์ต่างๆ มีอยู่หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นผ้า หนังสัตว์
หนังเทียมประเภทต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเครื่องหนังก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราพบเห็นหรือเป็นส่วนประกอบอยู่ใน
อุปกรณ์แถบทุกชนิด ไม่ใช่แค่กระเป๋าแฟชั่นที่เป็นเครื่องประดับสำคัญของผู้หญิงเท่านั้น หนังซึ่งเป็น
วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องหนังมีอยู่หลายประเภทและหลายคุณภาพ เราอาจจะไม่รู้ว่าใน
เครื่องหนังนั้น ๆ มิใช่มีเพียงหนังแท้ที่ได้มาจากหนังสัตว์ แต่ยังมีหนังที่ผลิตจากพลาสติกซึ่งมีลวดลาย
ของหนังแท้เข้ามาทดแทนมากมาย ซึ่งหนังเทียมPUก็เป็นหนังเทียมชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการใช้
ผลิตกระเป๋าหนังแฟชั่นในปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับหนังเทียมPU กันดีกว่า.....
1. หนังเทียม PU แบบอบแห้ง Dry process
2. หนังเทียม PU แบบผ่านน้ำ Wet process
ซึ่งหนังเทียม PU ทั้ง 2 ชนิดนั้นประกอบไปด้วย 3 ชั้น คือ ชั้นสี ชั้นกาว และชั้นผ้า แต่ในชั้นผ้า
ของหนังเทียม PU แบบผ่านน้ำนั้นจะนำไปโค๊ตหรือเคลือบด้วยเนื้อ PU ก่อนเพื่อให้เนื้อสัมผัสเหมือน
หนังแท้ยิ่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนในการเคลือบหรือโค๊ตด้วยเนื้อ PU บนชั้นผ้านั้นต้องผ่านน้ำเพื่อสร้างเนื้อ
PU ให้เนื้อสัมผัสเหมือนหนังแท้ ซึ่งเครื่องเคลือบหรือโค๊ต PU บนผ้าที่ต้องผ่านน้ำเรียกว่าเครื่อง
Wet process ดังนั้นหนังเทียม PU ที่ใช้ผ้าที่ผ่านกรรมวิธีจากเครื่องนี้จึงเรียกว่า หนังเทียม PU ประเภท
Wet process
การผลิตหนังเทียม PU ก็ต้องใช้เนื้อ PU มาเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ในแต่ละประเภทของ
เครื่องหนังต้องการหนังเทียม PU ไปใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกชนิดของเนื้อ
PU มาใช้งานจึงแตกต่างกัน เนื้อ PU มีด้วยกัน 3 ประเภทคือ
1. Polycarbonate based PU
2. Polyether based PU
3. Polyester based PU
1. Polycarbonate based PU หนังเทียมที่มีเนื้อ PU ประเภทนี้ประกอบอยู่นั้นจะมีอายุการใช้งาน
ได้นานถึง 20 ปีและมีความทนกรดด่างสูง
2. Polyether based PU หนังเทียมที่มีเนื้อ PU ประเภทนี้ประกอบอยู่นั้นจะมีอายุการใช้งานได้
นานถึง 7 ปีและมีความทนกรดด่างสูง
3. Polyester based PU หนังเทียมที่มีเนื้อ PU ประเภทนี้ประกอบอยู่นั้นจะมีอายุการใช้งานได้นานประมาณ 3-5 ปี และมีความทนกรดด่างพอควร ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งาน หนังเทียมชนิดนี้เป็นที่นิยม
ที่สุดและเหมาะสำหรับสินค้าแฟชั่นโดยเฉพาะกระเป๋าหนังแฟชั่น
เนื่องจากมีการใช้เนื้อ PU ประเภท Polyester based PU สูงจึงทำให้เนื้อ PU ประเภทนี้ราคาไม่
สูงมากนักแต่ในภาวการณ์แข่งขันที่สูงก็ยังมีบางโรงงานที่ต้องการลดต้นทุนในการผลิตให้ได้มากที่สุด
จนใช้วัสดุในการผลิตที่ไม่มีคุณภาพทำให้มาตรฐานไม่ถึง สีคุณภาพต่ำทำให้เวลาโดนแดดแล้วสีเปลี่ยน
โดยเฉพาะสีขาวถ้าไม่ใช้สีที่ดีแล้วเวลาเก็บไว้แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองการลดต้นทุนโดยใช้วัสดุFiller
หรือพวกเยื่อไม้Celluloseชนิดlong fibreซึ่งราคาถูกกว่าเนื้อ PU กว่าครึ่งหรือพวกแคลเซี่ยมที่ได้จาก
การระเบิดหินภูเขาซึ่งกิโลละประมาณ 4 บาท ในขณะที่เนื้อ PU ราคากว่าร้อยบาทต่อกิโลกรัม เมื่อผสม
ไปในส่วนผสมอย่างไร้มาตราฐานแล้วจะทำให้อายุการใช้งานและการทนกรดด่างน้อยลงซึ่ง
สินค้าเหลืออยู่แค่ 3-4 เดือนก็เสื่อมจากปกติที่จะอยู่ได้นาน 3-5 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น